ประสบการณ์เสียว

ผมแอบเห็นพี่อ้อย แฟนของพี่ชายร้องไห้ครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ผมดูแล้วว่าบ่อยมากช่วงนี้ คงเพราะพี่ชายผมไม่ค่อยกลับบ้าน ออกเที่ยวตามประสาคนรักสนุก นี่ดีนะที่ยังไม่มีลูกด้วยกัน ไม่รู้ว่ามีแล้วจะยังไงกันเลย พี่อ้อยกับผมสนิทกันพอสมควร ถึงอายุเราจะต่างกันหลายปี เพราะผมกับพี่ชายคนโตห่างกันสิบปี พี่อ้อยตอนนี้ 38 แล้ว ผมเองก็ยี่สิบแปดพอดี ผมสงสารพี่อ้อยแต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลืออะไรได้ เพราะแกเลือกที่จะแต่งงาน กับคนชอบเที่ยวอย่างพี่ผม ผมเองจริงๆ ไม่ได้แอบเห็นเฉพาะพี่อ้อยร้องไห้ แต่แอบเห็นหลายอย่าง แม้กระทั่งตอนที่พี่อ้อยช่วยตัวเองในห้องน้ำ มันบังเอิญน่ะ พี่อ้อยเป็นคนขาวถึงจะไม่สวย แต่ก็ไม่ขี้เหร่ และที่สำคัญสะอาด ผมยอมรับว่าผมเองมีแฟนแต่ก็แอบชอบพี่อ้อยอยู่เงียบๆ และในที่สุดสิ่งที่ผมไม่ได้คาดหวังมันก็มาถึงจนได้ พี่อ้อยทะเลาะกับพี่ชายผม แกจะกลับบ้านไปอยู่บ้านแม่แก ผมกับแม่ก็ช่วยกันปลอบอยู่นาน…

สวัสดีครับ ผมชื่อ ธนา เป็น นศ.วิศวะ ปี 4 มหาวิทยาลัยของรัฐ มีชื่อแห่งหนึ่งย่านบางเขน ผมสูง 170 ซม. หนัก 62 กก. ผิวสีแทน เรื่องที่ผมเขียนมาเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา คือว่า ผมเป็น นศ.ที่ไม่ค่อยจะเที่ยวเหมือนเพื่อนๆ หลายคนในกลุ่มผม และผมชอบอ่านหนังสือมาก ถ้าว่างเป็นไม่ได้ต้องหาหนังสืออ่าน จะอ่านหนังสือได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเบาสมองไปจนถึงหนังสือแปลที่อ่านแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่อง น้าผมทำงานอยู่ที่กระทรวงต่างประเทศ แก่โทรมาหาผม และบอกว่าแก่มีเพื่อนที่ทำงานอยู่คนหนึ่ง ชื่อพี่เจน อายุ…

ตอนนั้นหน้าที่การงานผมค่อนข้างรุ่งมากๆ ไต่ขึ้นไปเป็นเบอร์2ในบริษัทคือถ้าเจ้านายไม่อยู่ก็ผมนี่แหละตัดสินใจแทนได้ แล้วก็อย่างว่าแหละครับเมื่อตำแหน่งใหญ่ขึ้นงานมากขึ้น จึงจำเป็นต้องจ้างคนขับรถมาคนหนึ่งเพื่อแบ่งเบาความเหน็ดเหนื่อยเวลาเครียดๆ คนขับรถผมชื่อ ภูชิต เป็นคนทางเหนือเรียนจบปวช. แล้วมาช่วยงานป้า ซึ่งเป็นเจ้าของหอพักอยู่ย่านรามคำแหง แต่เนื่องจากไม่ค่อยมีงานให้ทำมากนัก ภูชิตเลยมาสมัครเป็นช่างซ่อมบำรุง..แต่ส่วนใหญ่ผมมักจะใช้บริการภูชิตให้ขับรถให้มากกว่ามันใช้ง่ายไม่เรื่องมาก ผมมักเรียกมันว่าไอ้ภู วันหนึ่งบริษัทของเพื่อนเจ้านายมีงานเลี้ยงครบรอบ 12 ปี งานนี้จัดที่โรงแรมแถวๆรัชดา เจ้านายติดประชุมสำคัญเลยให้ผมไปแทน ซึ่งพนักงานบริษัทนี้ทั้งบริษัทก็คุ้นเคยกับผมดีอยู่แล้วจึงไม่ค่อยมีปัญหาไร ผมจึงชวนภูชิตให้ขับรถให้กะว่ายังงัยซะคืนนี้มีเมากันปลิ้นแน่ แต่แล้วผมก็คาดผิดเมื่อก่อนงานเลิกผมซึ่งยังกึ่มไม่เข้าที่ มึคนมาบอกว่าไอ้ภูผมเมาสลบไสลอยู่ที่โซฟาหน้าห้องจัดเลี้ยง.ตอนนั้นนึกในใจไม่น่าเลยกูงานเข้าเลยไม่น่าพามันมาเล้ยยยย..ก็ธรรมดาแหละครับไอ้ภูมันก็คุ้นเคยอยู ่กับคนขับรถด้วยกันเค้าก็ชวนดื่มมันในฐานะเจ้าบ้าน แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันคออ่อนไม่กี่แก้วก็ไปซะแล้ว…เป็นหน้าของผมที่ต้องขับรถพามันไปส่งบ้าน.ซึ่งเป็นห้องว่างที่หอพักป้ามันนั่นแหละ ผมเคยปส่งมันมา2ครั้งแล้วเลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ผมในตอนนั้นเมากึ่มๆอยู่เหมือนกันแต่ต้องครองสติให้ได้ (ตอนนั้นกฏหมายเมาไม่ขับยังไม่เกิด) เมื่อไปถึงหน้าหอพักมัน ป้ามันก็ชะโงกมาดูผมลงจากรถเพื่อจะไปบอกป้าว่าไอ้ภูมันเมา..แต่ป้าแกเดินมาเปิดประตูให้ผมจึงขับรถเข้าไปจอดข้างใน ตอนแรกผมก็ไม่ได้สังเกตป้าของไอ้ภูมันมากนัก ก็เห็นแวบๆก็เป็นสาวแก่ทั่วไปวัยซัก…

ดิฉันและสามีแต่งงานกันมาแล้วแปดปี เรามีเพื่อนสนิทของครอบครัวซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของสามีตั้งแต่ก่อนแต่งงานชื่อสุชิน หรือพี่ชิน พี่ชินอยู่จังหวัดลำปางทำสวนส้มเป็นอาชีพหลักและไปมาหาสู่เราตลอดทุกเดือนไม่เคยขาด พี่ชินเคยแต่งงานแล้วแต่ก็หย่ากันเพราะไปด้วยกันไม่ได้ ดิฉันกับสามีก็เคยขึ้นไปเยี่ยมพี่ชินบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นช่วงที่มีงานเทศกาลท้องถิ่น เวลาขึ้นไปเหนือเราก็ไปพักบ้านพี่ชินซึ่งอยู่คนเดียวกับลุงคนสวนอีกหนึ่งคน สามีพอได้พบกับพี่ชินก็ตั้งวงดื่มเบียร์กันคุยกันอย่างสนุกสนานมาก คุยกันทุกเรื่อง คุยแล้วคุยอีกแบบไม่รู้จักเบื่อ บ่อยครั้งที่เขาทั้งคู่ซุบซิบกันเรื่องบนเตียง โดยสามีจะถามเสมอว่าทำไม่พี่ชินถึงหย่า อยากรู้เหตุผลจริงๆว่าเพราะอะไร พี่ชินก็จะหัวเราะและบอกแบบทีเล่นทีจริงว่า อดีตภรรยาเขาว่าพี่ชินไม่ค่อยสนใจเขา เอาแต่ลงสวน ไม่ค่อยทำการบ้าน สามีถามว่าระยะนานแค่ไหนที่ว่าไม่ค่อยทำการบ้าน พี่ชินบอกว่านอนกันแค่เดือนละครั้ง สามีบอกว่าตายห่า อายุแค่สามสิบกว่าๆเอาแค่เดือนละครั้งไม่น้อยไปหน่อยเรอะ ขนาดผม(สามี)ทำแทบทุกวัน เว้นเฉพาะเมียมีเมนส์ เมียยังบ่นว่าไม่พอเลย ดิฉันก็เลยต้องทุบเขาบึ้กใหญ่ เราคุยกันทำนองนี้บ่อยๆจนชินและเป็นเรื่องธรรมดา บางครั้งสามีจะคุยให้พี่ชินฟังในระหว่างที่ดิฉันเดินออกไปห่างๆแต่ยังพอได้ยินว่า สามีสู้ดิฉันไม่ค่อยไหว หมดน้ำยาก่อนเสมอๆแล้วเขาก็หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก…

ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันชื่อพินค่ะ พินเป็นคนต่างจังหวัดมาทำงานในกรุงเทพ เช่าบ้านอยู่กับลูกพี่ลูกน้องค่ะ อยู่กัน 4 คนเป็นผู้หญิงกันหมดค่ะก็มีมาเรียน 2 คน กับทำงานแล้วก็มีตูน แล้วก็พินค่ะ ตูนมีแฟนแล้วบางทีแฟนตูนก็มานอนค้างกับตูนบ้างบ้าง มาทีไรก็ต้องมีอะไรกันทุกทีเลยค่ะ แล้วตูนครางเบาซะเมื่อไหร่ ทำให้พินต้องแอบดูอยู่บ่อยๆ ดูไปๆก็เลยมีอารมณ์จนต้องตกเบ็ดช่วยตัวเองคิดไปจินตนาการไปเรื่อยๆ ว่าโดนแฟนตูนทำอย่างทำกับตูนทุกทีค่ะ เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ มีวันนึงค่ะแฟนตูนเค้ามาหาตูนค่ะตอนนั้นก็ดึกแล้ว พอดีตูนไม่อยู่ค่ะกลับบ้านเอาตังไม่ให้ที่บ้านที่เมืองกาญจน์น้องๆก็ไปกันหมดเหลือพินคนเดียวด้วย แล้วคืนนั้นพินรู้สึกเปลี่ยวใจมากเพราะไม่ได้ช่วยตัวเองหลายวันแล้วพูดตรงๆก็เงี่ยนนั่นเองค่ะตอนนั้นพินเปิดหนังเอ็กซ์อยู่ด้วย กำลังตกเบ็ดช่วยตัวเองคิดไปจินตนาการไปเรื่อยๆ จนใกล้จะเสร็จ พอดีแฟนตูนเค้าก็มา พินก็รีบไปเปิดประตูทั้งที่ใส่ชุดนอนที่ทั้งบางทั้งสั้นไม่ได้ใส่ยกทรง กางเกงในซักชิ้นค่ะ ก็อยู่คนเดียวนิคะ ตอนนั้นรีบ แล้วบอกว่าตูนไม่อยู่ หนุ่ม(แฟนตูนน่ะค่ะ)…

ผมเรียนอยู่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เป็นคนหน้าตาพอใช้ได้และมักมีผู้หญิงมาชอบอยู่เสมอ ขนาดผมมีแฟนแล้ว ก็ยังมีคนชอบผมอยู่พอเยอะ แต่มันก็ไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่หรอกครับ ในโรงเรียนผมมีคนรู้จักอยู่มากมาย เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนผมก็เป็นคนที่ทะลึ่งเงียบ(แอบทะลึ่งนี่เอง) ผมเป็นโรคจิตอย่างนึงคือ ชอบแอบมองกกน.เพื่อนๆในห้อง แรกๆผมก็ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอก แต่มันเกิดขึ้นเพราะเพื่อนในห้องส่วนมากมักจะสวย และมักจะน่าเอา เวลาพวกเธอนั่งกับพื้นก็จะนั่งไม่ค่อยระวังกันมากนัก คือพวกเธอจะนั่งขัดสมาธิ พอเวลาจะลุกพวกเธอก็ไม่ค่อยรวบกระโปรงปิดกัน ทำให้ผมได้เห็นกกน. ของพวกเธอบ่อยๆ และไม่ค่อยบอกเพื่อนด้วย(เดี๋ยวมันจะว่าโรคจิต…555) เห็นหมดทุกคน แม้แต่เพื่อนแฟนผม ผมก็เห็นกกน.เพื่อนแฟนมาหมดแล้ว ไม่เว้นกระทั่งแฟนเพื่อนผมที่ชื่อออย ตอนเย็นๆก็จะนั่งจับกลุ่มคุยกันไปเรื่อยๆ และออยมักจะนั่งแบบอ้าขา เวลาออยยกขาขึ้นมานะ โอ…เห็นไปไหนต่อไหนเลย และส่วนมากผมก็จะเอาเวลานี้คอยแอบมองกกน.ออยอยู่ทุกเย็น โดยที่ไม่มีใครรู้(แม้แต่แฟนผมก็ไม่รู้ถึงเรื่องนี้มาก่อน) ออยเป็นคนที่ผิวขาว รูปร่างดี…

เรื่องเกิดครั้งแรกเมื่อเมื่อประมาณ เดือน ธันวาคม 60 ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ พ่อตาวัย 67 กับแม่ยายวัย 62 ชวนเพื่อนๆบ้านใกล้เคียงมาฉลองเมื่อเมียผมได้คลอดลูกคนแรกเป็นผู้ชาย วันนั้นพอได้ข่าวทั้งสองแกดีใจยกใหญ่จัดแจงซื้อเหล้าซื้อเบียรมาเป็นโหลๆตกเย็นเพื่อนๆแกก้มากินและแสดงความยินดีกับผมและแกทั้งสองคน ทุกคนดื่มกินกันด้วยความสนุกเฮฮาจนเวลาผ่านเนิ่นนานมาประมาณ 3 ทุ่มเศษทุกคนก็เริ่มเมาและก็ขอตัวกลับบ้านไป มีอยู่คนเดียวก็คือลุงจ้อนเพื่อนซี้พ่อตาที่แกจะกินเหล้าเป็นประจำกับพ่อตา บางครั้งก็มีแม่ยายร่วมด้วย แกยังไม่กลับกำลังได้ที่คุยสนุกผสมเรื่องลามกด้วย แกคุยว่าเมื่อสมัยเมียแกคลอดลูกทุกๆคนแกจะชอบยุ่งกับเมียโดยไม่ปล่อยให้แผลหายสนิทแกบอกว่าของแกน่ะใหญ่ถ้าปล่อยให้หายเองพอเอาเมียแกทีหลังแกก็จะเจ็บแกก็เลยบอกเรื่องนี้กับเมียแก เมียแกก็เห็นใจก็เลยฝืนใจให้เอาแกบอกว่าเมียแกร้องแบบควายถูกเชือดนั่นแหละแป๊บเดียวก็หายแล้วก็ก็เปลี่ยนมาองซี๊ด…พ่อตาแม่ยายนั่งฟังแล้วก็หัวเราะกันทำให้ผมอดหัวเราะตามไม่ได้ พ่อตาก็ถามถ้ายังงั้นหีเมียมึงคงหลวมโคกเลยซิ ลุงจ้อนแกตอบถ้าเป็นคนอื่นมาเอาคงจะบอกว่าหลวมแหละแต่ถ้ากูนะแน่นปึ๊กเลย แล้วทุกวันนี้มึงยังล่อเมียมึงบ้างไม๊ล่ะ ลุงจ้อนก็ตอบเอ่อ….ตอนนี้กูแก่แล้วเหมือนมึงนั่นแหละนานก็จะเอากัน เป็นเดือนๆน่ะ โถกูนึกว่าแจ๋วที่แท้ก็หมดกระสุนแล้วพ่อตาพูด แล้วเองละว่าแต่กูแล้งมึงล่ะลุงจ้อนย้อนถาม พ่อตาบอกว่ากูนะแย่กว่ามึงอีกเป็นปีแล้วของกูไม่สู้เลย ขนาดเมียกูกวนกูยังไม่ยอมสู้เลย แม่ยายรีบแย้งขึ้นมาว่าก็ข้ายังมีอารมณ์อยู่นี้ข้าก็ต้องปรุกอารมณ์แกเผื่อแกจะได้เอาข้าบ้างนี่บอกตรงๆทุกคืนข้านอนนึกอยากให้หนุ่มมาล่อขาทั้งคืนแกนะข้าถอดใจแล้วไม่มีปัญญาแล้ว ผมนั่งอยู่ในวงเหล้าอยู่ด้วยไม่กล้าพูดอะไรใจนึงก็คิดว่าพวกแกทั้ง3ที่เมาๆกันแล้วพูดเล่นๆกัน…

น้องชื่อ “แก้ว” อายุ 22 ปี เป็นคนจังหวัดระยอง เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ทำงานที่นี่เป็นกรรมกร ก็อย่างว่าล่ะค่ะเรามีความรู้น้อยไม่รู้จะทำอะไรก็เลยต้องมาเป็นลูกจ้างเขา น้องมาทำงานที่นี่ได้ประสบการณ์แปลกใหม่อยู่อย่างหนึ่งที่ประทับใจมาก น้องมาทำงานที่นี่ได้ประมาณ 2 ปีกว่า น้องเจอกับผู้ชายคนหนึ่งเขาเพิ่งเข้ามาทำงาน เราสองคนสนิทกันมากเพราะเราอยู่ห้องข้างๆ กัน หลังจากเราเลิกงานกันแล้วเรามักจะมานั่งคุยกันที่หน้าห้อง ก็มันไม่รู้จะไปนั่งคุยกับใคร เพราะน้องเป็นคนคุยไม่เก่งเลยไม่ค่อยสนิทกับใครนอกจากเขา เวลาเราคุยกันก็มีเรื่องสนุกมาคุยกันเป็นประจำ มันทำให้น้องลืมเหงาไปได้เหมือนกัน เขาเป็นคนรูปร่างหน้าตาดีคนหนึ่งเหมือนกัน มีผู้หญิงมาชอบเขาหลายคนแต่เขาไม่สนใจ แต่สำหรับน้องแล้วไม่สนใจเขาอยู่แล้ว เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า แต่น้องสงสารผู้หญิงที่มาชอบเขาเหมือนกัน ผู้หญิงพวกนั้นซื้อของมาฝากเขาเป็นประจำ จนห้องของเขาเต็มไปด้วยของกิน บางทีเขาก็มาบ่นให้น้องฟังว่าเบื่อเหลือเกิน แต่ไม่รู้จะทำยังไงได้…

สวัสดีครับ ผมเป็นนักเรียน ม.ปลายโรงเรียนหนึ่ง เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อผมเล่น msn คือผมเป็นคนชอบเล่นคอมมากและสนิทกับผู้หญิงหลายคน หนึ่งในนั้นก็เป็นเด็กมอสองคนหนึ่ง ชื่อตาล ซึ่งปกติเล่นกันแบบพี่ชายน้องสาว อยู่มาวันหนึ่งน้องเขาก็ถามผมว่า “พี่ณัฐคะ พี่เคยมีอะไรกับผู้หญิงไหม” ผมเลยตอบไปตามความจริงว่า ไม่เคย น้องเขาก็ถามกลับมาว่า “แล้วพี่อยากลองกับหนูไหม” ผมถามกลับว่า “น้องอยากลองหรอ” น้องเขาก็ตอบกลับมาอย่างอายๆว่า “หนูแค่อยากลองน่ะค่ะ” ผมเลยนั่งรถออกไปหาน้องเขาที่บ้าน เมื่อไปถึงก็พบน้องเขานั่งรอ น้องเขาอยู่ในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น แต่ผมนึกสนุกเลยบอกให้น้องตาลไปใส่ชุดนักเรียน สักพักนึงน้องเขาก็ออกมาพร้อมกับชุดนักเรียน ผมจูงมือน้องเขาไปที่ห้องนอนของน้องเขา แล้วก็ถลกกระโปรงนักเรียนขึ้น พบว่าน้องเขาใส่กางเกงในซึ่งบัดนี้แฉะไปด้วยน้ำเมือกของน้องตาล ผมจึงค่อยๆถอดมันลองมา…

พอรู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กจากประตู หนูตกใจคิดว่าเป็นโจรหรืออะไรทำนองนั้น หนูรีบลุกแล้วจะวิ่งไปที่ประตูแต่พอดีประตูเปิดออกมาก่อน หนูจำได้ว่าเป็นคนงานผู้ชายสองคนที่ทำก่อสร้างบ้านในซอย หนูตกใจจะร้องแต่มันเอามีดมาขู่ว่า ถ้าหนูร้องมันจะฆ่าหนู หนูกลัวก็เลยไม่ร้อง หนูรู้แล้วว่ามันจะมาทำอะไรเพราะเคยเห็นมันมองๆอยู่เวลาที่หนูเดินผ่านก่อสร้างตอนจะกลับบ้าน แต่คิดว่าคงจะแค่มองๆแล้วก็แซวๆ แต่ไม่คิดว่าพวกมันจะกล้าถึงขนาดนี้ มันสองคนเข้ามาจับหนูถอดเสื้อผ้าออกแล้วผลักหนูไปที่เตียง คนนึงมานั่งที่หัวกดไหล่หนูไว้ อีกคนนึงก็เข้ามาตรงปลายเท้าเลย มันรีบถอดกางเกงมันออก ไอ้นั่นมันดูสกปรกน่าขยะแขยงมาก หน้ามันก็หื่นๆ หนูอายและกลัว จะร้องก็ไม่กล้าเพราะคนที่นั่งอยู่ตรงหัวมันจับมีดอยู่ด้วย พอคนที่อยู่ตรงปลายเท้ามันถอดกางเกงออกมาได้ก็จับขาหนูแยกออกแล้วเสียบเข้ามาเต็มแรงเลย ทีแรกหนูเจ็บแล้วก็ขยะแขยง หนูสะดุ้งเพราะเจ็บแล้วจะร้องออกมา แต่คนที่กดอยู่ตรงไหล่ก็รีบอุดปากหนูเอาไว้ มันเอาเชือกเนตรนารีที่หนูวางไว้รกๆตรงหัวเตียงมามัดมือหนูกับตรงหัวเตียง แล้วมันก็กดไหล่หนู คนข้างล่างทีแรกมันก็ทำเบาๆ ร้องซี้ดๆ แล้วก็กระแทกๆ ยัดเยียดของมันเข้ามาในจิ๋มหนู น้ำตาหนูเล็ดออกมาเจ็บก็เจ็บแต่ร้องไม่ออก หนูไม่รู้ว่าเลือดมันก็เหมือนสะใจ…