อย่างนี้ทั้งคืนก็ยังไหว รสสวาทของครูสาว

เรื่องเสียว อย่างนี้ทั้งคืนก็ยังไหว รสสวาทของครูสาว

รถเก๋งสปอร์ตสีดำหรูคันงาม เคลื่อนตัวช้าๆ บนถนนปูอิฐสีแดง ผ่านสวนที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ก่อนที่จะมาจอดนิ่งสนิทหน้าบ้านเดี่ยวทรงยุโรปหลังใหญ่ แสดงให้เห็นถึงฐานะของผู้ที่เป็นเจ้าของ พิมพรรณ ครูสาวแสนสวย หันหน้ามองไปยังชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังพวงมาลัย

“พิม กลัวค่ะเอก” เสียงครูสาวเจืออาการสั่นนิดๆ พร้อมกับแสดงสีหน้าวิตกกังวล เอกชัยจุดยิ้มขึ้นที่มุมปากเป็นเชิงปลอบใจ ยื่นหน้าเข้าใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนจากตัวเธอ และจุมพิตที่แก้มใสๆ สีชมพูเบาๆ
“พิมกลัวอะไรจ๊ะ”
“ก็กลัวทุกอย่างที่เราจะต้องเจอในวันนี้นะซิค่ะ พิมว่าเรากลับกันดีกว่า นะค่ะเอก”
“ขืนทำแบบนั้น เราก็เสียชื่อหมดสิจ๊ะพิม” ชายหนุ่มตอบ หร้อมกับสีหน้าแสดงความหนักใจที่แฟนสาวเริ่มถอดใจ จะยกเลิกการนัดหมายครั้งนี้

“อย่ากังวลไปเลย พิมก็รู้ว่าเหตุการณ์ในวันนี้ จะเป็นความลับ ไม่มีทางรั่วไหลออกไปภายนอกเด็ดขาด”
“เอก แน่ใจหรือคะ”
“เอกแน่ใจร้อยเปอร์เซนต์จ๊ะ” สีหน้าของชายหนุ่มดีขึ้น และยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เพื่อให้กำลังใจแฟนสาวของตน
“เอาอย่างนี้ ถ้าวันนี้พิมยังไม่พร้อมที่จะ … เอ่อ…. เราก็แค่ไปพูดคุยกับเขาเป็นพิธีก็พอ” ชายหนุ่มพูดเพื่อปลอบใจแฟนสาวอีกครั้ง เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น

พิมพรรณหลับตาลง เหมือนกำลังตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต พร้อมกับนึกในใจว่า เธอมีความคิดแพลงๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงยอมคล้อยตามไปกับความคิดพิศดารของแฟนหนุ่ม… สวิงกิ้ง … แค่คิดก็ขนลุกแล้ว และยิ่งนึกไปถึงว่าในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้าเธอจะต้องร่วมสังวาสกับชายอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน … มันช่างระทึกขวัญซะเหลือเกิน… ใจหนึ่งก็ตื่นเต้นจนหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากร่าง แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกหวั่นไหวระคนอับอาย

สลับคู่นอน … ใครกันหนอช่างอุตริคิดกันขึ้นมาได้ แถมเอกชัยแฟนหนุ่มของเธอก็พลอยเห็นดีเห็นงามไปด้วย พยายามออดอ้อนให้เธอเข้ามาร่วมเกมสังวาสแบบนี้ ในครั้งแรกที่เอกเอ่ยปากชวน เธอแทบสิ้นสติ คิดว่าแฟนของตนเองเป็นบ้าหรืออย่างไร ถึงอยากให้เธอนั้นไปมีเพศสัมพันธ์กับชายอื่น โดยที่เขาเองก็มีส่วนร่วมด้วย

ถึงเธอนั้นจะผ่านชายมาแล้วหลายคนโดยที่แฟนหนุ่มนั้นไม่ทราบ… ตาช่วง ภารโรงตัวแสบที่พยายามปลุกปล้ำเธอ แต่ไม่สำเร็จ… เดชา หนุ่มน้อยผู้ที่ได้ความสาวของเธอไป… เรืองวิทย์ ครูหนุ่มเพื่อนร่วมงาน… รวมถึงวันชัย คุณพ่อของเอกชัยเอง … แต่เหตุการณ์เหล่านั้นเป็นอุบัติเหตุที่เธอไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น เธอตั้งใจว่าจะลืมเหตุการณ์เหล่านั้นให้หมด และขอเริ่มตั้งต้นชีวิตใหม่กับแฟนหนุ่มของเธอ

จากการที่แฟนหนุ่มได้จุดชนวนเรื่องนี้ขึ้น ทำให้ไฟปราถนาในตัวเธอเริ่มคุโชนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ด้วยความอับอายเธอจึงได้ปฏิเสธตามคำชักชวนของแฟนหนุ่มในครั้งนั้น แต่เอกชัยก็ไม่ละความพยายามเฝ้าอ้อนวอนเธอ จนครั้งหนึ่งในขณะที่เธอกับแฟนหนุ่มกำลังสังวาสกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ เอกชัยได้ขอร้องให้เธอมาร่วมงานในวันนี้ ตอนนั้นเธอกำลังจะถึงจุดสุดยอด ก็เผลอตัวรับปากเขาไป และเอกชัยก็เหมาเอาว่าเธอตกลงแล้ว แม้ว่าภายหลังเธอจะปฏิเสธก็ตาม แต่เอกชัยก็ตามง้อจนเธอใจอ่อน ตามใจเขาจนได้

“ถ้าเข้าไปแล้ว แต่พิมไม่พร้อมที่จะ … เราก็กลับบ้านนะค่ะ” พิมพรรณลืมตาขึ้น และถามย้ำกับแฟนหนุ่ม
“ตกลงจ๊ะ… ถ้าพิมไม่พร้อม เอกจะพาพิมกลับบ้านทันทีเลยจ๊ะ” เอกชัยตอบกลับแทบจะทันที และเผยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ จากนั้นชายหนุ่มก็เปิดประตูรถออกไป และเดินอ้อมด้านหลังรถไปเปิดประตูให้กับแฟนสาว

“ลงรถได้แล้วจ๊ะพิม เดี๋ยวเจ้าของบ้านจะรอเรานาน มันเสียมารยาท” เอกชัยเตือนแฟนสาว
พิมพรรณหลับตาลงอีกครั้ง พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าและออกจากปอดแรงๆ ก่อนตัดสินใจก้าวเท้าออกไป

เรือนร่างของพิมพรรณได้รูปสมส่วนอย่างไม่มีที่ติ ทรวงอกอวบอิ่มกำลังพอดีสอดรับกับเอวที่คอดกิ่วสะโพกที่เต็มไปเนื้อหนั่นแน่นเปี๊ยะ ชุดสีน้ำเงินรัดรูปที่เธอสวมใส่ขับผิวขาวนวลของเธอให้เด่นชัดน่าลูบไล้ ผมยาวสรวยของเธอถูกเกล้าไว้บนศีรษะประดับด้วยเครื่องเพชรพองาม เผยให้เห็นใบหน้าสวยแต่งแต้มเครื่องสำอางเล็กน้อยชวนให้หลงไหลปานนางฟ้าลงมาจุติ

เมื่อครูสาวเหลือบตาแลไปทางประตูหน้าบ้าน พลันหัวใจก็แบบหยุดเต้น ใบหน้าของเธอแดงซ่านด้วยความเขินอาย ตัวชาราวกับถูกไฟช็อตก็ไม่ปาน ขนกายลุกซู่ขึ้นมาทันที… ชายหญิงคู่หนึ่งนั่นเองที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ที่ทำให้เลือดในกายของเธอร้อนรุ่มขึ้นมา ทั้งคู่คงจะรอคอยการมาของเธอกับแฟนหนุ่มอยู่นานแล้ว ถึงได้ออกมารอต้อนรับเกือบจะทันทีที่รถเข้ามาจอดอยู่หน้าบ้าน

ฝ่ายชายนั้นรูปร่างสูงใหญ่กว่าเอกชัยแฟนหนุ่มของเธอ ท่าทางกระชับกระเฉงเหมือนคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ใบหน้าคมเข้มรับกับหนวดเรียวงามบนริมฝีปาก อายุอานามน่าจะแก่กว่าเอกชัยไม่กี่ปี ส่วนฝ่ายหญิงนั้นอายุน่าจะพอๆ กับเธอเห็นจะได้ แต่ปราดแรกที่มองเห็น เธอต้องใจหายวูบ เนื่องจากหญิงสาวคนนั้นสวยมาก สวยแบบเซ็กซี่ แบบที่ไม่ว่าหญิงหรือชายต้องชายตามองตามเมื่อเธอเดินผ่านไป พิมพรรณนึกหวงเอกชัยขึ้นมาทันที เพราะถ้าเอกชัยติดใจหล่อนขึ้นมาจนกลายเป็นหลงเข้าละ เธอจะทำประการใด… นี่เองกระมังที่ทำให้เอกชัยพร่ำขอให้เธอมาร่วมงานนี้ให้ได้

เอกชัยจับมือแฟนสาวให้กำลังใจ และพากันเดินจากรถ ขึ้นบันไดหินอ่อนหน้าบ้านก่อนถึงประตูไม้สักบานใหญ่ที่มีการแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง ที่เจ้าของบ้านยืนรอต้อนรับอยู่
“สวัสดีครับ ขอต้อนรับสู้บ้านดวงเดือนของเรา” ชายหนุ่มเจ้าของบ้านเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน เมื่อพิมพรรณและเอกชัยเดินเข้ามาใกล้

“สวัสดีครับ คุณอภิชาติ” เอกชัยกล่าวตอบ พร้อมกับจับมือทักทาย ในขณะที่พิมพรรณก้มหน้ามองพื้นด้วยความเขินอาย
“พิมจ๊ะ .. มารู้จักคุณอภิชาติ กับคุณดวงเดือน ก่อนซิ” เอกชัยหันมากล่าวกับแฟนสาว
“คุณอภิชาติ คุณดวงเดือน นี่ พิมพรรณ แฟนของผมครับ” เอกชัยกล่าวแนะนำแฟนสาวต่อเจ้าของบ้าน
“คุณอภิชาติ เป็นทายาทเจ้าของกิจการห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ” เอกชัยคุยฟุ้งถึงฐานะของเจ้าของบ้านให้พิมพรรณทราบ เพื่อให้เธอคลายกังวลว่าคู่ที่จะมาร่วมสวิงกิ้งนั้น เป็นคนที่มีเกียรติ มีศักดิ์ฐานะในสังคม

“สวัสดีค่ะ” พิมพรรณกล่าวทักทาย ขณะที่กำลังจะยกมือพนมไหว้ก็ต้องชะงัก เพราะเหลือบไปเห็นอภิชาติเอื้อมมือออกมาเป็นเชิงขอสัมผัส เธอจึงต้องเอื้อมมือไปสัมผัสตอบ เขาบีบและเคล้นคลึงเบาๆ พร้อมๆ กับใช้นิ้วกลางเขี่ยที่กลางฝ่ามือของเธอเบาๆ ทำเอาเธอถึงขนลุกซู่ ใบหน้าแดงก่ำ ด้วยเพราะเธอรู้ความหมายของเขาดี

“เรียกผมว่าชาติก็ได้ครับ จะได้เป็นกันเองหน่อย ไม่ทราบว่าผมจะเรียกคุณพิมพรรณว่า พิม เหมือนคุณเอกจะได้หรือปล่าวครับ” อภิชาติกล่าวขอแบบสุภาพ
“ด… ได้… ได้ค่ะ” พิมพรรณตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก

“แล้วนี้ก็คุณดวงเดือน” เอกชัยแนะนำต่อ
“เรียกเดือนเฉยๆ ก็ได้ค่ะ” ดวงเดือนกล่าวทักอย่างเป็นกันเอง จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันเพื่อสร้างความสนิทสนม ก่อนจะพากันเข้าไปในตัวบ้าน

“วันนี้ผมให้คนรับใช้ลากลับบ้านไปหมด ขอให้สบายใจได้ แต่อาจจะไม่สะดวกซักหน่อย เพราะต้องบริการตัวเองนะครับ” อภิชาติกล่าวขึ้นอย่างติดตลกเล็กน้อย เพื่อต้องการให้แขกของเขาได้ผ่อนคลาย และสบายใจว่าจะไม่มีบุคคลที่สามมารับรู้เหตุการณ์นี้ เมื่อเขานำเอกชัยและพิมพรรณมาถึงห้องโถงใหญ่

การตกแต่งภายในของห้องโถงห้องนี้ ค่อนข้างแตกต่างจากห้องรับแขกโดยทั่วไป ภายในห้องมีเพียงเบาะโซฟาขนาดใหญ่บุด้วยผ้าแพรสีแดงสดอยู่มุมห้องด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านเป็นบาร์ค็อกเทลมีมีทั้งเครื่องดื่ม และของว่างสีสันน่ารับประทาน ผนังห้องด้านหนึ่งติดตั้งจอทีวีพลาสมาขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นวิดีโอและเครื่องเสียงครบครัน

ผ้าม่านทุกด้านปิดมิดชิดไม่มีแสงจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาได้ มีแต่เพียงแสงสลัวๆ วับๆ แวมๆ จากเทียนไขที่ถูกจุดไว้บนโต๊ะกลมเล็กกลางห้องเท่านั้น เคล้ากับเสียงเพลงคลาสิคเบาๆ สร้างบรรยากาศโรแมนติค อากาศในห้องเย็นสบายกำลังดีด้วยเครื่องปรับอากาศ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ ชวนให้เคลิบเคลิ้มผ่อนสบาย

“ผมอยากให้พวกเรานั่งดื่มร่วมกันก่อน เพื่อที่เราจะได้สนิทและคุ้นเคยกันมากกว่านี้” อภิชาติเอ่ยขึ้นมาพลางเดินไปหยิบไวน์ที่เคาร์เตอร์รินใส่แก้ว พร้อมกับเชื้อเชิญให้เพื่อนใหม่ของเขาร่วมดื่ม
“ผมตั้งใจจัดห้องนี้เป็นพิเศษ ไม่ทราบว่าถูกใจคุณเอกกับคุณพิมหรือปล่า”
“ถูกใจมากครับ” เอกชัยตอบกลับออกไป พร้อมกับมองดูไปรอบๆ

พิมพรรณถูกจัดให้นั่งบนเก้าอี้ทรงสูงหน้าเคาเตอร์ใกล้กับอภิชาติ ส่วนเอกชัยนั้นถูกดวงเดือนประกบแจจนลำตัวแทบจะชิดติดกัน ไปนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ด้านตรงกันข้าม เอกชัยได้กลิ่นหอมฝุ้งออกจากตัวหญิงสาวพราวเส่นห์ ประกอบกับต้นแขนของเขาก็บดเบียดไปมากับทรวงอกอวบอิ่มแน่นเนื้อราวกับมีสปริงของหล่อน อืม…หล่อนไม่ได้สวมชุดขั้นใน ชายหนุ่มบอกกับตนเองเช่นนั้น แลเห็นเม็ดทับทิบนูนเด่นออกมาจากเสื้อยืดสีดำคอลึกที่เธอสวมใส่อยู่ อีกทั้งขนาดของมันใหญ่โตกว่าแฟนสาวของเขาเสียอีก กระตุ้นสัญชาตญาณเพศผู้ของเขาให้ลุกโชนขึ้นมาทันที ลำลึงค์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในกางเกงเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

พิมพรรณเห็นอาการของแฟนหนุ่ม รู้สึกเจ็บแปล็บขึ้นมาในหัวใจ เกิดอารมณ์หึงหวงขึ้นมาจนร้อนระอุ ได้แต่นั่งนิ่งตัวแข็ง คิดในใจ ถ้าชวนกลับตอนนี้ คงไม่ยอมกลับเป็นแน่ ทำหน้าระริกระรี้เสียนี่กระไร แต่จะทำอะไรได้ เราเต็มใจลงเล่นเกมสวาทครั้งนี้เอง จะไปโทษหาความผิดจากใครได้เล่า ประจวบกับฝ่ามือหนาใหญ่ของอภิชาติวางหมับลงบนหน้าขา พิมพรรณรีบปัดออกทันทีอย่างลืมตัว ก่อนที่จะนึกได้ว่าไม่สมควรทำกิริยาเช่นนี้

“เชิญดื่มสักหน่อยซิครับ” อภิชาติพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นี่เป็นไวน์ชั้นดีปรุงพิเศษ ที่สั่งมาสำหรับงานนี้ทีเดียวนะครับ รับรองว่าคุณพิมไม่เคยได้ชิมมาก่อนแน่ๆ ไม่แรงครับ ออกหวานด้วยซ้ำ” หนุ่มใหญ่กล่าวเชิญอย่างสุภาพแกมบังคับ นัยน์ตาเป็นประกายแฝงไปด้วยเลห์กล เมื่อเห็นพิมพรรณรับแก้วไวน์ไปจิบ

พิมพรรณยกมันขึ้นจิบเล็กน้อยอย่างเสียไม่ได้ เหมือนอย่างที่หนุ่มใหญ่บอก มันไม่แรงแถมกลิ่นหอมอีกต่างหาก แต่เมื่อหญิงสาวเหลือบตาไปทางเอกชัย ดูเขาช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน จนลืมไปแล้วมั้งว่ามีเธอนั่งอยู่ทางนี้ทั้งคน ดูซิ… ออเซอะหัวร่อต่อกระซิก ผลัดกันป้อนไวน์กับของว่างให้แก่กัน ยิ่งดูยิ่งรู้สึกเสียวจิ๊ด เลยประชดด้วยการยกไวน์ขึ้นดื่มอีกทีจนเกือบหมดแก้ว อภิชาติยิ้มอย่างพอใจ รีบยกขวดรินเติมให้อีกในเกือบจะทันที

ยิ่งดื่ม… พิมพรรณก็รู้สึกว่าตัวเองเกิดอารมณ์ประหลาดกระสันต์ซ่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แก้มสองข้างแดงระเรี่ย ลมหายใจกระชั้นถี่ ท้องน้อยร้อนรุ่ม ภายในร่องสวาทบีบรัด น้ำเมือกน้ำสวาทเริ่มหลั่งรินออกมาตามความรู้สึกภายในที่รุ้มเร้า

เอกชัยเห็นอาการของแฟนสาว ที่นั่งตัวเกร็ง หายใจไม่เป็นจังหวะ ก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดออกมา ดวงเดือนก็ยกมือขึ้นมาปิดปากเขาไว้ พร้อมกับยื่นใบหน้าเข้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของเขา
“ไม่ต้องตกใจไปหรอกค่ะ คุณเอก… คุณพิมเธอไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็จะสนุกด้วยกันแล้วค่ะ”
“เรามาสนุกในส่วนของเราดีกว่านะค่ะ… เดือนอยากจะสัมผัสความเป็นชายของคุณแล้วค่ะ ว่าจะแน่เหมือนคำพูดหรือปล่าว ฮิ ฮิ” ว่าแล้วแม่เสือสาวก็เป่าลมที่ซอกหูของชายหนุ่มเบาๆ พร้อมกับเลื่อนมือลงไปเบื้องล่างของเขา ลูบไล้ไปมากับแท่งเนื้อที่กำลังตื่นตัว
“อุ๊ย… แข็งโด่เชียวนะ …” หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงลิงโลดเหมือนเด็กที่ได้รับของเล่นชิ้นใหม่

เพียงแค่นั้น ความอดทนของเอกชัยก็มาถึงขีดจำกัด เจ้าท่อนเนื้อของเขาลุกโชนอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะใช้วงแขนอันแข็งแรงโอบกระชับร่างงามเข้ามาใกล้ชิดยิ่งขึ้น และโอบอุ้มร่างงามระหงนั้นขึ้นมานั่งคล่อมบนตักของเขา พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปจุมพิตยังริมฝีปากงามที่อ้าเผยอรออยู่อย่างรวดเร็ว

“อืม … อือ …” ดวงเดือนส่งเสียงครางในลำคออย่างสุขสม พร้อมกับบดเบียดสะโพกกลมกลึงเข้าหาท่อนเนื้อที่แข็งเป็นแท่งยาวเบื้องล่าง เอกชัยก็ตอบสนองหล่อนด้วยการชอนไชลิ้นเข้าไปในโพลงปาก เกี่ยวกระหวัดดูดดื่มกับเรียวลิ้นส่งเสียงจ๊วบจ๊าบ มือขวาของชายหนุ่มตะโปมลงไปบนเนินอกเต่งตึงหยุ่นมือที่เขาใคร่กระหายอยากจะสัมผัสตั้งแต่แรกเห็น ส่วนมือซ้ายก็โอบลูบไล้ไปมาบนลอนสะโพกไล่ไปจนถึงแก้มก้นที่อัดแน่นไปด้วยก้อนเนื้ออวบอัดของหญิงสาว

อภิชาติเห็นอาการของพิมพรรณที่นั่งบิดตัวไปมา ลมหายใจหนักหน่วง สายตาจ้องมองไปยังภาพการโรมรันเบื้องหน้า ก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี รีบวางขวดไวน์ไว้และเดินกลับมายังด้านหลังของพิมพรรณ วางมือบนไหล่ทั้งสองข้าง พิมพรรณสะดุ้งเล็กน้อย หันมามองเขาด้วยสายตาที่หยาดเยิ้ม
“อุ๊ย … คุณอภิชาติ”
“เรียกชาติซิครับ คุณพิมคนสวยของผม” อภิชาติก้มลงพูดเบาๆ ที่ข้างหูของพิมพรรณ พร้อมกับซูดดมความหอมจากเรือนกายของหล่อน
“อืม .. อูย….ซี๊ดดดด …อ..อย่.อย่าค่ะ. คุณชาติ ต..ขาาาาา” พิมพรรณร้องครางเสียงกระเส่า จิตใจของเธอร้อนรุ่มแทบคลั่ง พลางร้องห้ามปรามเบาๆ เมื่อมือซ้ายของอภิชาติวางหมับบนต้นขาเรียวงามของเธอ ค่อยๆ ลูบไล้ล่วงล้ำผ่านชายกระโปรงเข้าไปด้านใน ครูสาวแยกขาออกอย่างไม่รู้ตัว ทำให้หนุ่มใหญ่สอดมือเข้าไปได้ลึกล้ำมากขึ้น อารมณ์ใคร่อารมณ์สวาทเริ่มเข้าครอบงำเธอ ใจหนึ่งอยากจะให้เขาหยุดการกระทำดังกล่าวเสีย แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะให้เขาทำอะไรๆ ให้มากกว่านี้

พิมพรรณหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มราวกับกำลังล่องลอยไปในความฝัน… ความฝันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัญจวนใจ นิ้วมือของอภิชาติสอดลอดขอบบิกินี่ตัวน้อยเข้าไป เลื้อยเลาะเจาะร่องสวาทซึ่งบัดนี้มันเฉอะแฉะ เอ่อล้นไปด้วยน้ำกระสันต์สวาทของครูสาวที่ทะลักหลั่งออกมาจนชุ่ม ยาปลุกเซ็กส์ที่เจือปนอยู่ในไวน์เริ่มออกฤทธิ์ของมันแล้ว พิมพรรณลืมความกังวลใจจนหมดสิ้น… ลืมหมดสิ้นแม้แต่เอกชัย แฟนหนุ่มที่กำลังฟ้อนเฟ้นกับหญิงงามอีกคนหนึ่งภายในห้องเดียวกันนี้ หลงเหลือแต่ความต้องการทางเพศร้อนรุ่มสุมใจที่ต้องปลดปล่อยออกมาเท่านั้น

“อุ๊ยส์…อูย…อูยส์….ซี๊ดส์สสส…พ.พิม…เสียวจังเลยค่ะ คุณชาติ อย่าคลึงตรงนั้น อูยยยยยยย” พิมพรรณส่งเสียงซูดปากลั่นออกมา เมื่อนิ้วของอภิชาติเริ่มกระดกเลาะเลื้อยไปมาในร่องสวาท ก่อนที่จะไปบดเน้นเจ้าติ่งไตจุดกระสันต์ของเธอ
“เสียวตรงไหนหรือครับ คุณพิม” หนุ่มใหญ่ย้อนถาม แต่เขาไม่ต้องการคำตอบ กลับใช้มือที่เหลืออีกข้างเอื้อมไปโอบกระชับทรวงอกอิ่มทั้งสองข้างของครูสาว ถึงขนาดจะเล็กกว่าดวงเดือนภรรยาของเขาแต่ก็เต็มไม้เต็มมือ นอกจากนั้นเมื่อบีบกระชับเข้าไปรูสึกได้ถึงความเต่งตึงคัดแน่น พอคลายมือเจ้าก้อนเนื้อพลันเด้งออกมาเหมือนมีสปริงอยู่ด้านใน… แม่เจ้าโว๊ย ของดีชั้นหนึ่งจริงๆ…หนุ่มใหญ่ลิงโลดอยู่ในใจ

“คุณพิมเนี๊ยะ ทั้งสวย ทั้งหอม ไปทั้งตัวเลยนะครับ … อย่างนี้ให้ผมเย็ดทั้งคืนก็ยังไหว” อภิชาติกระซิบที่ข้างหู ทำเอาครูสาวถึงกับเขินขาย หน้าแดงซ่านไปกับคำพูดตรงๆ ของหนุ่มใหญ่ เนื้อตัวสั่นระริก

หนุ่มใหญ่เห็นอาการอย่างนั้น ก็ไม่รอช้า ปากก็พรมจูบไปที่แก้มงามจรดใบหูและซอกคอจากด้านหลัง มือนั้นเล่าก็ตะโบมลูบไล้ปถุมถันเต่งตึงคัดแน่นสลับไปมาทั้งเต้าซ้ายและขวา ส่วนมืออีกข้างก็ล้วงฉกเข้าไปในร่องหลืบ ที่เอ่อชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นที่หลั่งออกมา สลับกับการสะกิดสะเกาเจ้าติ่งไตสีชมพูที่ชูชันออกมา ทำเอาครูสาวถึงกับครางกระเส่า ส่ายหน้าไปมาช้าๆ แอ่นอกเชิดให้เขาคลึงเคล้น สองมือจับเก้าอี้ไว้แน่น ส่วนท่อนล่างก็กระดกยกสะโพกแอ่นส่ายสู้มือเขาตลอดเวลา
“อูย…คุณชาติ พิมเสียวจังเลยค่ะ อืม…ซี๊ดส์…โอ๊ยส์ …พิมจะไม่ไหวแล้วววว … เสียววววว เหลือเกิน”

อภิชาติเมื่อได้ยินเสียงร้องครวญครางของครูสาว บ่งบอกว่าเธอกำลังจะถึงจุดหมายแล้ว ร่องเสียวของเธอก็ตอดรัดนิ้วของเขาระรัว น้ำกระสันต์ของเธอก็แตกทะลักออกมามากมายจนเจ้าบิกินี่ตัวน้อยเปียกชุ่มไปหมด แต่เขาไม่ต้องการให้ครูสาวแสนสวยคนนี้ถึงจุดหมายในลักษณะนี้ เขาจึงถอนนิ้วมือที่กำลังแยงรูสวาทของครูสาวออกมา น้ำเมือกใสๆ ยืดตามนิ้วของเขาออกมาเป็นสาย
“ซี๊ดส์ … อูยยยยยย …” พิมพรรณส่งเสียงคราง พร้อมกับแอ่นเนินโคกขึ้นมาตามนิ้วของหนุ่มใหญ่อย่างลืมตัว

พิมพรรณเหลือบสายตามามองหนุ่มใหญ่หนวดงามที่ยืนโอบกระชับหล่อนจากด้านหลังด้วยแววตาที่ฉ่ำเยิ้ม เรือนร่างงามบิดไปมา เผยให้เห็นส่วนโค้งส่วนเว้าที่ลงตัวอย่างเหมาะเจาะ รอคอยการกระทำของเขาต่อด้วยความเสียวซ่าน พลันอภิชาติก็โอบครูสาวให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ จากนั้นก็พาเธอเดินไปที่กลางห้อง โดยที่พิมพรรณเองทำตามอย่างไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย

“คุณพิม ให้เกียรติเต้นรำกับผมซักเพลงซิครับ” อภิชาติเอ่ยถามพร้อมกับโน้มหน้าไปพรมจูบไปทั่วใบหน้างาม
“ไม่.. เออ.. พิมเต้นไม่เป็น” พิมพรรณตอบกลับด้วยเสียงที่ขาดเป็นห้วงๆ
“ถ้างั้น ผมจะสอนให้” โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของหญิงสาว อภิชาติก็โอบกอดร่างงามไว้ในวงแขน แล้วพาออกเดินเต้นรำในจังหวะสโลว์ซบ