เรื่องเสียว ยอมเป็นกระหรี่เพื่อส่งเงินกลับบ้าน
นับตั้งแต่เรียนจบ ม.ปลาย ที่ต่างจังหวัด แนนก็มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อหวังจะหางานทำ หวังจะมีอนาคตที่ดีและส่งเงินกลับบ้าน แนนสู้อดทนอดหลับอดนอนทำงานอย่างหนักและใช้ชีวิตอย่างประหยัดเพื่อหวังว่าสิ้นเดือนจะมีเงินมาพอให้เหลือไว้สำหรับอนาคตและส่งกลับทางบ้าน ทว่า ในสังคมแบบนี้ต่อให้ทำงานหนักมากแค่ไหนก็ไม่เพียงพอที่จะมีชีวิตที่ดีได้ แนนจึงตัดสินใจเดินเข้าสู่เส้นทางที่เรียกว่าหญิงขายบริการ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “กระหรี่”
ทุกครั้งที่เงินเดือนออกหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว แนนมักจะเหลือเงินอยู่ราวเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งก็แบ่งเป้นส่งให้ทางบ้านที่ต่างจังหวัด 4,000 ที่เหลือกเป็นเงินเก็บของตัวแนนเอง ในตอนแรกทุกอย่างก็ดูโอเค คงเป็นเพราะด้วยแรงใจที่เต็มเปรี่ยมกับความหวัง จนกระทั่ง แม่ที่บ้านนอกเริ่มโทรมาขอเงินบ่อยเข้าบ่อยเข้า จนบางครั้งมันทำให้แนนรู้สึกอึดอัดเพราะเงินที่ให้ไปในแต่ละเดือนนั้นก็นับว่าแทบจะทั้งหมดที่แนนมี แนนเป็นสาวออฟฟิศอยู่ในตำแหน่งไม่สูงมากนักฉะนั้นเงินเดือนก็ได้ตามตำแหน่ง แนนถูกต่อว่าว่าไม่กตัญญูแอบกักเงินเอาไว้ใช้บำเรอตัวเองจนมีให้พ่อกับแม่มากกว่านี้ไม่ได้ แนนเครียด แนนเหนื่อย และรู้สึกเศร้าอย่างมาก กระทั่งผลกระทบจากทางบ้านเริ่มส่งผลโดยตรงกับที่ทำงาน แนนเริ่มทำงานได้แย่ลงจนเพื่อนและหัวหน้าจับสังเกตได้ ในที่สุดเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาแนนและสอบว่าเกิดอะไรขึ้น แนนจึงเล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง หลังจากที่เล่าเรื่องทุกอย่างเพื่อนคนนั้นเสนอทางออกให้
“แกอยากมีรายได้พิเศษมั้ย…ฉันมีงานแนะนำนะ เป็นงานที่ฉันเองก็เคยทำตอนเงินขาดมือ”
“เอาสิ งานอะไรตอนนี้ฉันก็ยอมทำทั้งนั้นแหละ” แนนยินดีรับข้อเสนอ
“เป็นไซไลน์” แนนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “แกเองก็ถือว่าหน้าตาใช้ได้นะ น่าจะได้ราคาดีไม่น้อย…สนใจมั้ย”
“แล้วมันต้องทำยังไงบ้าง”
“แกอยู่เฉยๆ ถ้าแกตอบตกลง ฉันจะหางานมาให้ ว่าแต่ อยากได้งานเมื่อไหร่ล่ะ”
แนนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ขอแบบด่วนที่สุดเลยได้ไหม”
“โห….แสดงว่าเดือดร้อนจริงๆ ถ้าอย่างนั้นฉันจะลองติดต่อให้ได้เร็วที่สุดนะ” เธอเดินจากไปโดยทิ้งแนนให้นั่งอยู่ตามลำพัง งานขายตัวดูเป็นอะไรที่น่ากลัวสำหรับแนนแต่ก็ต้องทำใจยอมรับ
และแล้ววันที่แนนต้องทำงานนั้นก็มาถึง มีสายโทรเข้ามาสายหนึ่งนัดให้แนนไปที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งกลางเมือง แนนมาจนถึงหน้างานเป็นห้องหนึ่ง ประตูเปิดออก คนด้านในเป็นผู้ชายวัยกลางคน มีพุ่งเล็กน้อย ดูทรงแล้วน่าจะเป็นนักธุรกิจขาดรัก เขาเชิญให้แนนเดินเข้าไปด้านใน แนนเดินเข้ามายังไม่พ้นเขตหน้าประตูเข้าก็ตีตูดแนนจนตัวแนนสะดุ้ง
“ทำไม กลัวเหรอ ครั้งแรกสิท่า มาๆๆ” แนนเดินตามเขาเข้าไป “อาบน้ำมาหรือยัง” เขาถามขณะอยู่บนโซฟาหน้าทีวี
“อาบแล้วค่ะ”
“ดี ถ้างั้นมาเริ่มเลย เสื้อผ้าที่ใส่มานั้นถอดออกให้หมด ฉันอยากจะเห็นหีของเธอใจจะขาดแล้ว” แนนยืนอยู่ตรงหน้าเขาและปลดเปลื้องผ้าออกทุกชิ้น เหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า เขาเอื้อมมือมาที่หีของแนนแล้วใช้สองนิ้วแหกกลีบหีที่ปิดสนิทออก
“ยังซิงอยู่หรอ หีลักษณะแบบนี้แสดงว่าไม่เคยเย็ดกับใครเลยนิ”
“ค่ะ หนูเป็นเด็กบ้านนอก ยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้ค่ะ” แนนพูดด้วยความกลัว
“5555 ดี งั้นแบบนี้ฉันจะให้รางวัลแกเป็นพิเศษ” เสี่ยหยิบก้อนเงินออกจากกระเป๋า และปาใส่หน้าของแนน เงินที่มากกว่าเงินเดือนทั้งเดือนปลิวอยู่รอบตัว
“คุกเข่าสิ แล้วอมควยให้ฉัน” แนนทำอย่างเก้ๆ กังๆ
“อ้อลืม ทำไม่เป็นสินะ เอาเป็นว่าค่อยๆเรียนรู้ไปก็แล้วกัน”
แนนถูกเสี่ยเย็ดครั้งแรกมันรู้สึกเจ็บมากแต่ก็ต้องทน เสี่ยแก่เย็ดอย่างซาดิส เขาทำอย่างรุนแรงไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ “ฟิตจิรงโว้ย” แนนเริ่มมีน้ำตาและละอายตัวเองที่ทำแบบนี้ เย็ดยังคงไม่หยุดความโหดร้ายนั้น มันให้แนนขึ้นขย่ม แนนก็ยอมทำตามคำสั่ง น้ำเลือดจากหีไหลออกเต็มโซฟา เสียงเนื้อหน้าขากระทบกันเสียใจแนนไม่อยากจะฟัง และไม่นานหลังจากนั้นเสี่ยก็เสร็จสม แนนลุกขึ้นแต่งตัวและยืนปาดน้ำตาที่ไหลออกมา เสี่ยก็เอาแต่ยิ้มราวกับรู้สึกประทับใจ
“แกรู้มั้ย ฉันได้เย็ดหีซิงๆ ครั้งแรกเมื่อไหร่ ตอนนั้นฉันอายุแค่ 13 แล้วหลังจากนั้นก็ผ่านมาเกือบจะ 40 ปี ฉันก็ไม่ได้เย็ดใครที่ซิงอีกเลย จนมาเจอแก” แนนได้แต่ยืนฟังและไม่ได้สนใจ
“ฉันสนใจจะเลี้ยงแก แกคิดว่าไง”
“หมายความว่ายังไงค่ะ” แนนสังสัย
“ก็หมายความว่าฉันจะให้เงินแกทุกเดือน เท่ากับเงินเดือนแก 2 เท่า แต่มีข้อแม้ คือแกต้องมาหาฉันอาทิตย์ละวันและห้ามเย็ดกับใครทั้งนั้น นอกจากฉัน ตกลงมั้ย”
“ตกลงค่ะ” แนนครุ่นคิดครู่หนึ่งแต่ก็ตอบตกลง เพราะอย่างไรก็ตามการจะได้เงินง่ายขนาดนี้แล้วก็ไม่ต้องเปลืองตัว
มากก็ยังดีกว่าต้องผ่านใครหลายคน
แม้ว่าสิ่งที่แนนทำจะไม่ต่างอะไรกับการเป็นเมียน้อยบวกกับกระหรี่ แต่อย่างนอนทุกเดือนแนนก็มีส่งให้กับทางบ้านได้มากกว่าเดิม และที่สำคัญชีวิตของแนนเองก็ดีขึ้นกว่าเดิมไปด้วย ทุกวันนี้เพื่อนที่แนะนำงานก็ยังเจอหน้าและยิ้มให้กันปกติ และเรื่องนี้ก็เป็นเความรับของเราสองคนในออฟฟิศเสมอมา