เรื่องเสียว ครอบครัวของหนูเสียวกับชู้ของแม่
หนูเรียนอยู่ปี 2 ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพค่ะ ที่บ้านของหนูอยู่ชานเมือง ฐานะค่อนข้างดี คุณพ่ออายุ 48 ปีเป็นผู้บริหารบริษัท ส่วนคุณแม่อายุ 43 ปีเคยเป็นอาจารย์ คุณพ่อได้รับมรดกจากคุณปู่คุณย่า คุณพ่อจึงขอร้องคุณแม่ให้ออกจากงานมาอยู่บ้าน หนูอายุ 19 ปีเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน หนูมีพี่สาวอยู่คนนึงชื่อแนน แก่กว่าหนู 3 ปี ตอนนี้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ออสเตรเลีย ที่บ้านหนูยังมีอีกครอบครัวนึงคือครอบครัวน้าเริญกับน้าศรี สองสามีภรรยาอายุราวๆ 40 กันทั้งคู่ น้าศรีอยู่กับคุณปู่คุณย่ามาก่อนแล้วมาเป็นพี่เลี้ยงให้พี่แนนกับหนู เมื่อแต่งงานกับน้าเริญ คุณพ่อคุณแม่จึงรับน้าเริญมาอยู่ช่วยงานอีกคนและยกบ้านหลังเล็กให้อยู่ โดยน้าศรีคอยดูแลพี่แนนและหนู ช่วยงานบ้านงานครัว ส่วนน้าเริญขับรถดูแลรถ ดูแลส่วน และงานซ่อมแซมต่างๆในบ้าน เหตุเกิดขึ้นเมื่อก่อนปีใหม่ค่ะ ช่วงนั้นคุณพ่อไม่อยู่บ้าน ไปตรวจงบประจำปีสาขาที่ขอนแก่นหลายวัน กว่าจะกลับก็วันศุกร์ก่อนจะหยุดยาว คืนนั้นเที่ยงคืนกว่าหนูตื่นขึ้นมากลางดึกราวๆเที่ยงคืนกว่า และตั้งใจว่าจะหลับต่อแต่ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากห้องคุณพ่อคุณแม่ หรือว่าคุณพ่อจะกลับมา หนูจึงเดินไปที่ประตูห้องคุณพ่อคุณแม่เพื่อจะทักทายคุณพ่อ แต่ยังไม่ทันได้เคาะประตูหนูก็ได้ยินเสียงคุณแม่และเสียงผู้ชายแต่ไปใช่คุณพ่อ ครางเบาๆดังลอดประตูออกมา
หนูออกไปที่ระเบียงซึ่งมีมุมที่สามารถมองไปที่หน้าต่างห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ ได้ ห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ยังเปิดไฟ หนูมองผ่านม่านที่รูดไม่สนิทเห็นร่างของน้าเริญเปลือยท่อนบนทาบทับอยู่บน ร่างผู้หญิงซึ่งแม้ว่าจะไม่เห็นหน้าชัดเพราะตรงที่ๆหนูดูอยู่เป็นหัวเตียง เห็นแต่ศีรษะของผู้หญิงผมยาวอยู่ในชุดนอนบางเบา แต่หนูก็รู้ว่าเป็นคุณแม่ น้าเริญกำลังจูบปากคุณแม่บดขยี้ไปมา มือก็ลูบไล้ไปตามเนื้อตัว คุณแม่ไม่ได้ขัดขืนกางแขนกอดรัดจูบตอบน้าเริญ เมื่อน้าเริญเลื่อนหน้าลงมาไซ้ซอกคอ ร่องอก แล้วดูดเลียหัวนมของคุณแม่ ซ้ายขวาสลับกัน คุณแม่ก็ยกขาขึ้นทั้ง 2 ข้างเกี่ยวรัดตัวน้าเริญไว้ พลางแอ่นอกส่ายสะโพกเบียดกับตัวน้าเริญไปมา สองมือก็กดศีรษะน้าเริญลงกับอก ปากก็ครางเบาๆ เสียงน้าเริญพูดงึมงำจับใจความไม่ได้ หนูตกใจมากกับภาพที่เห็น รู้สึกอายแต่ก็อดที่จะยืนดูไม่ได้ มันทั้งอายทั้งอยากดู และรู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก ครู่ใหญ่น้าเริญก็เลื่อนหน้าลงไปซุกไซ้ที่ท้องน้อย ทั้งจูบทั้งไซ้ แลบลิ้นยาวเลีย ระเรื่อยลงไปถึงเนินนูนแล้วซุกหน้าลงไป คุณแม่กดศีรษะน้าเริญแน่น มือเกร็งจิกผม กระดกก้นรับเป็นระยะๆ ถอนหายใจเฮือกๆจนอกกระเพื่อม ปากร้องครางดังขึ้น หนูเสียวซ่านที่ท้องน้อย รู้สึกกระตุกวาบๆที่ก้นและช่องคลอด น้าเริญซุกไซ้อยู่ครู่ใหญ่จนคุณแม่ทนไม่ไหวดึงศีรษะน้าเริญขึ้นมาข้างบน น้าเริญผงกหัวลุกขึ้น ถอดกางเกงขาสั้นและกางเกงในออก เอามือช้อนขาของคุณแม่ทั้งสองข้างพาดไหล่ หนูเห็นท่อนเนื้อกำยำปูดโปนด้วยเส้นเอ็นของน้าเริญผงกหงึกๆ น้าเริญจับมันเขี่ยวนไปที่เนินนูนของคุณแม่ แล้วค่อยๆสอดใส่มันลงไป คุณแม่แอ่นก้นรับ ครางดังๆออกมา น้าเริญหยุดพลางค่อยๆสอดเข้าไปทีละน้อยจะมิดลำ แล้วค่อยๆชักเข้าชักออก มือก็ขยำขยี้อกอวบนิ้วคอยบี้ปลายยอดอก
คุณแม่ก็แอ่นก้นรับเป็นระยะ หนูเสียวมากขึ้นรู้สึกเหมือนว่าเนินเนื้อของหนูจะบวมขึ้น ภายในร่องหลืบฉ่ำแฉะ หนูเพลินดูน้าเริญกับคุณแม่ร่วมรักกันไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ มารู้ตัวเมื่อน้าเริญเร่งจังหวะเร็วขึ้น คุณแม่บิดกายครวญครางออกมาดังๆ สักพักน้าเริญก็เแหงนหน้าขึ้นร้องครางออกมาแล้วก็ทรุดตัวลงทาบทับกับร่างคุณ แม่ หนูรีบกลับจากระเบียงเข้ามาในบ้าน ค่อยๆย่องเข้ามาในห้อง ขึ้นเตียงนอน คืนนั้นหนูนอนไม่หลับค่ะ มันตื่นเต้นปั่นป่วนไปหมด ภาพคนสองคนเปลือยกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันมันลอยวนเวียนทุกครั้งที่หนูหลับตา หูก็แว่วเสียงคนคุยกัน เสียงครวญคราง หนูอดจินตนาการเห็นภาพตามไม่ได้ ความเสียวซ่านในท้องน้อยมีมากขึ้นจนหนูเผลอเอามือล้วงไปลูบไล้เนินนูนของหนู ภายในร่องเนื้อฉ่ำแฉะ หนูลูบไล้โดนติ่งเนื้อจนเสียววาบๆทุกครั้งที่สัมผัสโดน หนูลูบไล้อยู่พักใหญ่มันก็กระตุกวาบๆน้ำไหลออกมาจากภายในร่องหลืบมากขึ้น หนูรู้สึกโล่ง ปลอดโปร่ง และผ่อนคลาย จนเผลอหลับไป ตอนเช้าที่โต๊ะอาหาร คุณแม่นั่งทานอาหารเช้าอยู่คนเดียว ขณะที่หนูลงมาจากห้องนอนเพื่อเตรียมไปมหาวิทยาลัย คุณแม่ดูสดชื่น แต่ของตาออกคล้ำๆเล็กน้อย หนูแกล้งถามไปว่า “คุณแม่นอนดึกเหรอคะ” คุณแม่บอกว่า “จ๊ะ เมื่อคืนดูทีวีดึกไปหน่อย” หนูทานโจ๊กซึ่งคุณแม่ให้น้าเริญไปซื้อให้ หนูก็เพิ่งทราบว่าน้าศรีแกไปนอนเฝ้าไข้พ่อแกที่ล้มป่วยเมื่อคืน แกจะกลับมาช่วงกลางวัน ทำงานบ้านแล้วจะออกไปเฝ้าพ่อต่อ ในใจหนูคิดว่าหากน้าศรีทราบเรื่องเมื่อคืน แกคงจะเสียใจ เหมือนที่หนูเสียใจ หนูไม่ทราบว่าคุณแม่ทำอย่างนั้นได้อย่างไร
ตอนไปมหาวิทยาลัย น้าเริญขับรถไปส่ง หนูแทบไม่อยากมองหน้าน้าเริญ น้าเริญเห็นท่าทางเพลียๆของหนูก็ถามว่า “คุณหนูไม่ค่อยสบายเหรอครับ” หนูพยักหน้า น้าเริญถามว่าวันนี้จะเลิกเรียนกี่โมงจะให้มารับเมื่อไหร่ วันนั้นหนูมีเรียนเฉพาะช่วงเช้า ตอนบ่ายว่างหนูอยากรีบกลับบ้าน หนูไม่อยากให้น้าเริญมีโอกาสอยู่กันตามลำพังกับคุณแม่ หนูจึงนัดให้แกมารับตอนบ่ายโมงครึ่ง วันนั้นหนูเรียนไม่รู้เรื่อง ภาพที่เห็นเมื่อคืนก่อนมันเข้ามารบกวนจนหนูรู้สึกบอกไม่ถูก จนเที่ยงเลิกเรียนหนูไปทานอาหารกลางวันกับเพื่อนๆ แล้วลงมานั่งอ่านหนังสือ ซึ่งก็อ่านไม่รู้เรื่องได้แต่พลิกหนังสือไปมา จนกระทั่งบ่ายโมงครึ่งจึงมานั่งที่หน้าคณะรอน้าเริญ จนเกือบบ่ายสองน้าเริญจึงมา แกขอโทษหนูที่มาช้าบอกว่าไปส่งน้าศรีที่โรงพยาบาลจึงมาช้า หนูขึ้นนั่งบนรถแล้วหลับตาอดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ ลืมตามาเห็นน้าเริญก็นึกถึงท่าทางร่วมรักเมื่อคืน รถวิ่งมาได้สักพักน้าเริญเรียกหนูถามว่าไม่สบายเหรอ และคะยั้ยคะยอให้หนูไปหาหมอ หนูปฏิเสธไปแล้วบอกว่าแค่ปวดหัว เดี๋ยวแวะซื้อพาราฯให้หนูทานสักเม็ดคงจะหาย แล้วหนูก็ส่งเงินให้น้าเริญ น้าเริญจอดรถแวะร้านขายยาแล้วลงไปซื้อยา สักพักก็กลับมาส่งยาให้หนูพร้อมกับน้ำส้มกล่องนึง หนูรับยามาทานแล้วก็ดื่มน้ำส้มจนหมดกล่อง แล้วก็นั่งพิงเบาะหลับตา วันนี้รถไม่ติดเลย รถวิ่งไปได้สักครู่หนูก็เคลิ้มหลับ มันหลับๆตื่นๆ ภาพน้าเริญกับคุณแม่มาวนเวียนอยู่ในสมอง ภาพหน้าเริญกอดจูบ ซุกไซ้คุณแม่ ภาพท่อนเนื้ออันกำยำของน้าเริญ ภาพการกระแทกกระทั้น ภาพการแอ่นอกยกก้นของคุณแม่ หนูรู้สึกวาบๆที่ท้องน้อย ใจเต้าแรง หายใจแรง ภาพต่างๆแจ่มชัดขึ้น หนูรู้สึกกระตุกหงึกๆภายในร่องหลืบ จนต้องถอนหายใจออกมา
จนถึงบ้านหนูลงจากรถ เดินเข้าบ้านไม่เห็นคุณแม่อยู่ในบ้าน คงจะอยู่ข้างบน ความรู้สึกวาบหวิวมันประดังเข้ามจนหูแทบอั้นไปไหว หนูรีบขึ้นไปข้างบนเข้าห้องนอน ล็อคประตู เปิดแอร์ทิ้งไว้ แล้วเข้าห้องน้ำ หนูถอดเสื้อผ้าเปิดน้ำอาบ น้ำจากฝักบัวแม้จะช่วยให้หนูผ่อนคลายลงไปบ้าง แต่เมื่อถูกสบู่ลูบไล้เนื้อตัวความรู้สึกวูบวาบก็กลับเข้ามาอีก หนูเช็ดตัวนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาในห้องนอน สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแล้วล้มตัวลงนอนกอดหมอนข้าง เอาเนินนูนของหนูถูไถหมอนข้างอย่างสุดจะห้ามใจ ภาพเมื่อคืนเร่งให้หนูวาบหวิว มันเสียวซ่านและตอดรัดภายในซอกหลืบ หนูเอาขาเกยหมอนข้างกระเด้งแอ่นเอาเนินนูนบดขยี้อย่างเมามัน หนูได้ยินเสียงปลดล็อคประตูดังกริ๊ก ประตูห้องเปิดออก น้าเริญเดินเข้ามาแล้วล็อคประตู หนูตกใจมากถามแกว่า “เอ๊ะ น้าเริญเข้ามาได้อย่างไร แล้วเข้ามาห้องหนูทำไม” น้าเริญตอบว่า “ผมมีกุญแจสำรองเกือบทุกห้องของบ้านนี้ ผมเข้ามาดูคุณหนูเห็นว่าไม่ค่อยสบาย เผื่อผมจะพาไปหาหมอ” หนูถามหาคุณแม่ น้าเริญแกบอกว่า “คุณนายไปบ้านเพื่อน ผมไปส่งหลังจากไปส่งศรีที่โรงพยาบาล ท่านให้ผมไปรับตอนห้าโมงครับ” หนูบอกแกว่าหนูไม่เป็นอะไรมาก นอนพักสักครู่ก็คงหาย แต่น้าเริญยังไม่ออกไปจากห้อง ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆหนู เอามือลูบไล้ท่อนขาเรียวเปลือยของหนูแล้วพูดว่า “คุณหนูครับ เมื่อคืนคุณหนูแอบดูผมกับคุณผู้หญิงใช่มั้ยครับ ผมเห็นเงาที่ระเบียง” หนูตกใจมากที่ทราบว่าน้าเริญแกเห็นที่หนูแอบดู หนูผุดลุกขึ้นนั่ง หลบตาแกหน้าชาวูบด้วยความอาย น้าเริญลูบไล้แผ่นหลังมาถึงสะโพกหนู พลางกระซิบว่า “คุณหนูไม่ต้องอายหรอกครับ คุณหนูบอกผมได้ไหมครับว่าเห็นอะไรบ้าง และคุณหนูรู้สึกยังไง” หนูเสียวซ่านเมื่อน้าเริญลูบไล้เข้าไปในเสื้อยืด ภาพเมื่อคืนวานผุดเข้ามาในความคิดของหนู
ความเสียวซ่านจากภาพนั้นประกอบกับการถูกจู่โจมลูบไล้ ทำให้รู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว น้าเริญแกก้มหน้าลงซบที่ซอกอกหนู มือก็ยังคงลูบไล้ระไปเรื่อยๆ หนูพยายามปัดป้อง ผลักไส แต่ความซาบซ่านทำให้ต้องแอ่นอกรับหน้าของน้าเริญอย่างสุดที่จะห้ามใจ น้าเริญดึงเสื้อยืดหนูขึ้นแล้วฝังหน้าลงระหว่างร่องอกที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อ ชั้นใน แลบลิ้นเลียระไปตามชายเนินถันที่ตึงเต่งของหนู หนูพยายามจะผลักไส แต่มันไม่มีแรงเอาซะเลย น้าเริญกดตัวหนูนอนราบลง จับมือหนูทั้งสองข้างยกขึ้นแล้วดึงเสื้อยืดขึ้นจนเสื้อรูดพ้นจากร่าง แกเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อชั้นในออกอย่างง่ายดาย หนูสลัดมือหลุดมากอดอกทับเสื้อชั้นในเอาไว้แน่น น้าเริญแกก็ซุกไซ้โลมเลียเนินถันของหนูที่ล้นปริ่มออกมาจากมือและแขน หนูซาบซ่านมากขึ้นรู้สึกวูบวาบในช่องท้อง ที่นูนเนิน และที่ร่องหลืบกลางนูนเนินดูเหมือนจะกระตุกวาบๆหลายครั้ง น้าเริญจับข้อมือหนูทั้งสองข้างแหวกออก เอาปากงับเสื้อชั้นในให้เลิกขึ้นไป หนูเย็นวาบที่เนินถันอันอวบอิ่มและปลายจะงอยถันที่ตั้งชูชันเมื่อเสื้อชั้น ในถูกเลิกขึ้นไป น้าเริญไม่รอช้าเข้าซุกไซ้ไปทั่วเนิน ปากงับปลายจะงอยถันแล้วดูดตอด เอาปลายลิ้นฉกเลียปลายถัน แล้วซุกไซ้เปลี่ยนไปมาทั้งสองข้าง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่หนูถูกเพศตรงข้ามลูบไล้จับต้องร่างกาย หนูขนลุกซู่เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนมันหายไปหมด น้าเริญเอาตัวทับร่างหนูปล่อยมือทั้งสองข้าง เอามือหนึ่งขยำหน้าอกข้างที่ไม่ได้ซุกไซ้ อีกมือลูบระเรียวขา สะโพกและนูนเนินบริเวณเป้ากางเกง สักครู่หนึ่งน้าเริญก็เลื่อนขึ้นมาไซ้ซอกคอ โลมเลียที่ติ่งหู สองแก้ม แล้วก็ประกบปากสอดลิ้นเข้าพัวพันลิ้นของหนู หนูอ้าปากกว้าง แต่น้าเริญกระซิบบอกให้หุบปากดูดลิ้นแก
แล้วแลบลิ้นมาดุนกับลิ้นแกด้วย ไม่ทราบว่าอะไรดลใจจนหนูทำตาม แกจูบพลางลูบไล้หน้าอกไปพลาง อีกมือสอดเข้าไปในขากางเกงเข้าไปลูบที่รอยแยกของหนู หนูสะดุ้งเฮือกเสียวซาบซ่าน ภายในร่องหลืบกระตุกวาบๆ แกกระซิบบอกว่า “คุณหนูอยากแล้วเหรอครับ มันแฉะไปหมดแล้วครับ” หนูเผลอตัวกอดรัดแกด้วยทั้งเสียวซ่าน และทั้งอาย หนูวาบหวิวไม่รู้ตัวกอดรับน้าเริญแน่น แอ่นอกแอ่นก้นรับมือน้าเริญ สักครู่นึงกางเกงของหนูก็ถูกรูดออกไปจากขาโดยหนูไม่ทันรู้ตัว มันเย็นวาบไปทั้งร่าง หนูพอจะรู้ตัวบ้างจึงเอาขาไขว้กันไว้ไม่ให้โดนจู่โจมจุดสำคัญ น้าเริญผุดลุกขึ้น มองดูเรือนร่างเปลือยเปล่าของหนู หนูอายมากค่ะ มือกับแขนข้างนึ่งปิดอก อีกบ้างหนึ่งปิดของสงวนแล้วคว่ำหน้าลงกับที่นอน ครู่หนึ่งน้าเริญก็เข้ามานอนแนบข้างหนู หนูสัมผัสเรือนร่างกำยำที่เปลือยเปล่าของน้าเริยที่เข้ามาชิดแนบตัว น้าเริญจึบตัวหนูพลิกหงายขึ้น หนูไม่มีแรงขัดขืนเลยค่ะ ทั้งกลัวทั้งเสียวซ่านต้องการอย่างบอกไม่ถูก หนูหรี่ตามองเห็นท่อนเนื้อใหญ่ปูดโปนไปด้วยเส้นเอ็น ยิ่งทำให้เสียวซ่านมากขึ้น น้าเริญเริ่มโลมไล้หนูอีกครั้ง ทั้งจูบเลียดูดที่หน้าอกทั้งสองข้าง ก่ายเกยร่างขึ้นมาทั้บร่างหนู เอาเข่าทั้งสองข้างแทรกแยกขาหนูออกจากกัน จับมือหนูทั้งสองข้างกดไว้ที่ข้างตัว พลางไซ้หน้าลงมาจากอกมาที่ท้องน้อย แล้วซบหน้าลงที่นูนเนินของหนู น้าเริญทั้งดูด ทั้งเลีย ทั้งสอดลิ้นฉกเข้าออกอย่างว่องไว หนูเสียวมากค่ะ เผลอเอาขารัดตัวน้าเริญไว้แน่น น้าเริญปล่อยมือหนู เอามือทั้งสองข้างลูบไปตามเนื้อตัว หน้าอกทั้งสองข้าง บี้และสะกิดหัวนม บางครั้งก็ลูบลงมาถึงแก้มก้น เอานิ้วสะกิดติ่งเนื้อให้หนูเสียววาบจนทนไม่ไหว หนูกระตุกอีกหลายครั้ง มือทั้งสองข้างกดศีรษะน้าเริญลงแนบกับนูนเนิน แอ่นอกกระดกก้นรับกับมือและหน้าของน้าเริญอย่างลืมตัว
แล้วดึงตัวน้าเริญขึ้นมากอด ร่างเราแนบกันน้าเริญจูบปาก จูบหน้าอกอย่างตะกรุมตะกราม หนูรู้สึกถึงความแข็งขันของน้าเริญที่ถูไถอยู่ที่ปากร่องหลืบของหนู เมื่อมันถูโดนจุดเสียวซ่านหนูอดไม่ได้ที่จะต้องแอ่นอกยกก้นขึ้นอย่างลืมตัว น้าเริญกระซิบเบาๆว่า “คุณหนูครับ ผมจะทำให้คุณหนูมีความสุขนะครับ คุณหนูอย่าเกร็ง ทำตัวตามสบาย” แล้วแกก็จับเอาท่อนเนื้อแข็งขันของแกถูไถที่ปากร่องหลืบอยู่พักนึง จากนั้นก็ค่อยๆสอดมันลงไปอย่างช้าๆ มันเสียวแปลบเหมือนร่างหนูจะแยกเป็นสองเสี่ยง หนูผลักอกแกไว้ แกหยุดค้างไว้ แล้วก็มาจูบลูบไล้จนหนูพลุ่งพล่านขึ้นแกก็กดลงไปอีก ทำอย่างนี้หลายครั้งหลายคราวจนหนูรู้สึกเสียวซ่านระคนกับความเจ็บปวดที่ ค่อยๆคลายลง และกระตุกวาบๆในร่องหลืบที่คาบคาแท่งเนื้อของน้าเริญ แกจึงกดแท่งเนื้อลงจนหมดลำ หนูสะดุ้งเฮือก เสียวแปลบจนน้ำตาไหล ต้องกอดร่างน้าเริญเอาไว้แน่น น้าเริญกดแนบอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ แท่งเนื้อนั้นเต้นกระดุกกระดิกอยู่ในร่องหลืบ ปาก จมูก และมือน้าเริญก็ยังจูบ ซุกไซ้ เคล้นคลึงบนร่างหนูอยู่ตลอดเวลา สักครู่ใหญ่น้าเริยจึงค่อยๆขยับตัวดึงแท่งเนื้อออกนิดนึงแล้วกดลงไปใหม่ หนูแบะขาอ้ากว้างรับแท่นเนื้อของแกที่เริ่มเข้าออกอย่างช้าๆ แล้วก็เร็วขึ้น มันครูดทำให้เสียวซ่านสุดทน ความเจ็บค่อยๆคลายลง น้าเริญเอาขาหนูทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่า แล้วขย่มหนักขึ้น
หนูเสียวมากค่ะร้องครางตลอดเวลา แอ่นอกยกตะโพกขึ้นรับ สองมือเหนี่ยวตัวน้าเริยลงมาแนบอก น้าเริญเอาขาหนูลงจากบ่า นอนทาบทับบนตัว กระแทกท่อนเนื้อลงในร่องหลืบหนูถี่ยิบ พลางขยำขยี้หน้าอกหนู หนูเหนี่ยวกายแกลงกระแทกร่างหนูอย่างลืมตัว ปากหนูส่ายหาและประกบปากแก สอดลิ้นพันกัน รู้สึกเหมือนใจจะขาด เหมือนร่างหนูจะระเบิดออกเสียวซ่านไปทั้งร่างเหมือนตกจากที่สูง ร่องหลืบกระตุกถี่ๆหลายครั้ง หนูร้องออกมาดังอย่างห้ามไม่ไหว น้าเริญเห็นอาการหนูแกยิ่งเร่งมากขึ้น จนความอบอุ่นจากร่างน้าเริญพุ่งวาบเข้ามาในช่องท้องหนู มันเสียวซ่าน ปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย น้าเริญทิ้งตัวลงบนร่างหนู ถอนหายใจเฮือกๆผสานกับเสียงหอบหายใจของหนู
เรานอนกอดก่ายกันอยู่ชั่วครู่ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีย้อนกลับมาอีกครั้ง หนูเสียใจมากค่ะที่เผลอกายเผลอใจให้น้าเริญ คนที่เป็นชู้กับคุณแม่ คนที่ร่วมกับแม่นอกใจคุณพ่อ หนูนอนคว่ำหน้าร้องไห้ ปล่อยให้น้าเริญเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดน้ำที่ไหลล้นออกมาจากร่องหลืบของหนู แกปลอบหนูต่างๆนานาพลางก็ลูบไล้ตัวหนู แม้ว่าหนูจะยังคงร้องไห้เสียใจ แต่ก็อดวูบวาบไปกับการลูบไล้ของแกไม่ได้ ครู่ใหญ่แกก็แต่งตัว ก่อนออกไปจากห้องแกมาจูบที่แก้มแล้วกระซิบว่า “ผมมีความสุขมากเลยครับคุณหนู คุณหนูหอมและเต่งตึงไปทั้งตัว แล้วเราคงจะหาโอกาสมามีความสุขกันอีกนะครับ” หนูยังคงนอนคว่ำน้ำตาไหลสับสน มันเสียใจระคนกับความสุขอิ่มเอมใจบอกไม่ถูก ภาพคุณแม่กับน้าเริญ ภาพร่างของน้าเริญที่ทาบทับอยู่บนกายหนู แล้วที่น้าเริญบอกว่าเราจะหาความสุขกันอีก แล้วนี่หนูจะทำยังไงดี